สำหรับการตลาดทางดิจิทัล ธุรกิจต่าง ๆ จะเก็บรายชื่อและที่อยู่อีเมลของบุคคลที่เลือกรับการสื่อสารจากพวกเขา โดยรายชื่ออีเมลเหล่านี้ถือเป็นทรัพย์สินอันมีค่าสำหรับองค์กรเนื่องจากช่วยให้พวกเขาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรงด้วยการใช้ข้อความที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย, จดหมายข่าว, โปรโมชั่น, แหล่งข้อมูลทางการศึกษา หรือการอัปเดตผลิตภัณฑ์ ซึ่งการใช้ลิสต์รายชื่อเหล่านี้จะทำให้ธุรกิจของคุณสามารถใช้ติดต่อได้ทั้งลูกค้าในปัจจุบันและผู้ที่มีโอกาสจะเป็นลูกค้าในอนาคต, สร้างความภักดีต่อแบรนด์ และส่งเสริมให้ธุรกิจของคุณเติบโตขึ้นได้

น่าเสียดายที่อีเมลทางการตลาดจำนวนมากที่ส่งไปหาลูกค้าอาจไปอยู่ในโฟลเดอร์สแปม ซึ่งมีสาเหตุหลายประการที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้ แต่สาเหตุหลัก ๆ มักมาจากการใช้รายชื่ออีเมลที่ไม่มีคุณภาพ ด้ังนั้นเจ้าของธุรกิจต้องแน่ใจว่ารายชื่อที่ใช้นั้นมีคุณภาพจริง ๆ

ในบทความนี้ เราจะพูดถึงองค์ประกอบของรายชื่ออีเมลที่ดี และกลยุทธ์ที่คุณสามารถนำมาใช้เพื่อสร้างรายชื่ออีเมลที่ดีให้กับธุรกิจของคุณ นอกจากนี้เราจะบอกเคล็ดลับเกี่ยวกับวิธีที่ทำให้คุณสามารถเพิ่มคุณภาพรายชื่ออีเมลของคุณ

 

รายชื่ออีเมลแบบมีคุณภาพ VS ไม่มีคุณภาพ

รายชื่ออีเมลนั้นอาจเป็นรายชื่อที่มีคุณภาพหรือไม่มีคุณภาพก็ได้ ดังนั้นเป้าหมายของคุณคือการสร้างและรักษารายชื่อที่ดีไว้ เพื่อให้คุณสามารถดำเนินกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพได้ และสิ่งที่สำคัญคือต้องรู้ว่าอะไรทำให้รายชื่ออีเมลที่ดีแตกต่างจากรายชื่ออีเมลที่ไม่ดี

องค์ประกอบของรายชื่ออีเมลที่ดีมีอะไรบ้าง?

  • รายชื่ออีเมลที่ดี ต้องเป็นที่อยู่อีเมลของผู้ที่แสดงความสนใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ และได้เลือกรับข่าวสารด้วยความยินยอมของตนเอง
  • เป็นผู้รับอีเมลที่มีปฏิสัมพันธ์ เช่น มีการเปิด และมีการคลิกอยู่เป็นประจำ
  • ลิสต์รายชื่อที่ใช้มีการกำหนดเป้าหมายไปยังผู้รับที่เหมาะสม
  • ไม่มีที่อยู่อีเมลที่ไม่ได้ใช้งานแล้วหรืออีเมลปลอมในลิสต์รายชื่อ
  • ไม่มีการร้องเรียนสแปมเกี่ยวกับอีเมลที่ธุรกิจของคุณส่งหรือมีจำนวนเล็กน้อย
  • ภายในลิสต์มีจำนวนรายชื่ออีเมลมากกว่า 2,000 รายชื่อ
  • เป็นลิสต์รายชื่อที่สอดคล้องกับกฎหมายป้องกันสแปม เช่น กฎหมายควบคุมโฆษณาและสื่อลามกที่ไม่พึงประสงค์ ค.. 2003 (CAN-SPAM) กฎหมายคุ้มครองข้อมูลทั่วไป (GDPR) และพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคทางโทรศัพท์ปี 1991 (TCPA)

หากรายชื่ออีเมลของคุณมีองค์ประกอบที่ถูกต้องทั้งหมดตามที่กล่าวมา จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าเนื้อหาการตลาดทางอีเมลจะถูกส่งไปยังเป้าหมายที่มีแนวโน้มจะมีส่วนร่วมกับคุณและมีโอกาสจะซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คุณนำเสนอมากกว่า

องค์ประกอบของรายชื่ออีเมลที่ไม่ดีมีอะไรบ้าง?

  • รายชื่อที่ได้มาจากวิธีการที่ไม่ซื่อสัตย์หรือซื้อจากผู้ขายที่เป็นบุคคลที่สาม
  • เป็นลิสต์รายชื่อที่ประกอบด้วยที่อยู่อีเมลที่ไม่ได้ใช้งานหรือเป็นอีเมลปลอม
  • ธุรกิจได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับสแปมเป็นจำนวนมาก
  • เป็นลิสต์รายชื่อสำหรับผู้ใช้งานที่หลากหลาย ไม่โฟกัสไปที่กลุ่มเป้าหมาย
  • เป็นลิสต์ที่ไม่ปฏิบัตตามบทบัญญัติของกฎหมายป้องกันสแปม

นักการตลาดบางคนไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากใช้รายชื่ออีเมลที่ไม่ดี, ใช้ทางลัดในการสร้างโอกาสสำหรับการขาย, การไม่ตรวจสอบอีเมลและไม่อัพเดทรายชื่อเป็นประจำ การใช้รายชื่อประเภทนี้อาจใช้ได้ระยะหนึ่งแต่ไม่ยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมจากลูกค้าและจะไม่ทำให้เกิดความสำเร็จตามเป้าหมายที่คุณวางไว้

 

 

 

ทำความเข้าใจผู้รับอีเมลของคุณ

การทำความเข้าใจผู้รับอีเมลของคุณเป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้างเนื้อหาการตลาดทางอีเมลที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เนื้อหาอีเมลของคุณจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับผู้รับและทำให้พวกเขามีส่วนร่วมได้ แต่คุณจะเข้าใจผู้รับของคุณได้อย่างไร?

คุณต้องระบุข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายและใช้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องการ, ความชอบ และความสนใจของพวกเขามาทำการวิจัยทางตลาดและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลอันมีค่าเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภค, รูปแบบการสื่อสาร และพฤติกรรมการซื้อ

นอกจากนี้ข้อมูลของคุณยังสามารถนำมาใช้แบ่งกลุ่ม (segment) ลิสต์รายชื่อได้ เช่น เพศ, อายุ และโลเคชั่น เพื่อใช้เป็นเอีเมลแบบส่วนบุคคล (personalized email) โดยการปรับแต่งเนื้อหาอีเมลของคุณตามปัญหาและความสนใจเฉพาะของผู้รับ ช่วยให้คุณสามารถพูดคุยกับพวกเขาได้โดยตรง, สร้างความน่าเชื่อถือ และสร้างความไว้วางใจ สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการมีส่วนร่วมและเพิ่มอัตราความสำเร็จให้กับแคมเปญ รวมถึงส่งเสริมความสัมพันธ์ระยะยาวกับสมาชิกของคุณ

001.jpg

เครดิตภาพ Unsplash

 

สร้างลิสต์รายชื่ออีเมลของคุณ

การสร้างรายชื่ออีเมลที่ดีถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของทุกแคมเปญอีเมลที่ประสบความสำเร็จ แต่ก่อนอื่น คุณต้องจำไว้ว่ารายชื่ออีเมลนั้นเป็นมากกว่าการรวบรวมข้อมูลที่อยู่ แต่จะเป็นคอมมูนิตี้ของผู้ที่มีโอกาสจะเป็นลูกค้า ที่มีความสนใจในสิ่งที่องค์กรของคุณนำเสนอ นอกจากนี้ การสร้างรายชื่ออีเมลที่ดีนั้นจะไม่เน้นแค่เรื่องปริมาณเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงคุณภาพและต้องสามารถเชื่อมต่อกับผู้รับได้จริง ๆ

ต่อไปนี้คือวิธีที่คุณสามารถสร้างลิสต์รายชื่ออีเมลให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ:

สิ่งสำคัญคือการได้รับอนุญาตจากผู้รับ ควรให้ความสำคัญกับการได้รับความยินยอมเสมอ เพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับผู้รับของคุณและทำให้คุณมั่นใจได้ว่าอีเมลของคุณจะได้รับความสนใจ คุณควรให้ข้อเสนอที่เป็นประโยชน์กับผู้ที่สมัครรับข้อมูลอย่างชัดเจน อธิบายให้ผู้รับหรือสมาชิกทราบถึงสิ่งที่พวกเขาจะได้รับจากอีเมลของคุณ

คุณควรพิจารณากระบวนการเลือกรับอีเมล (double opt-in) เพื่อยืนยันที่อยู่อีเมลและลดความเสี่ยงของการร้องเรียนเกี่ยวกับสแปม

เสนอเนื้อหาที่มีคุณค่า นำเสนอเนื้อหาคุณภาพสูงที่โดนใจกลุ่มเป้าหมายของคุณ โดยอาจเป็นบล็อกโพสต์ที่ให้ข้อมูล, ข้อมูลเชิงลึกของอุตสาหกรรม, ข้อตกลงพิเศษ หรือการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ก่อนใคร

นอกจากนี้คุณยังสามารถปรับปรุงการใช้รายชื่อในลิสต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ ด้วยการแบ่งกลุ่มรายชื่อตามความสนใจและปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะสม การปรับเปลี่ยนตามรูปแบบของผู้รับจะเพิ่มการมีส่วนร่วมและไม่ส่งเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งพบว่าการจัดกลุ่มอีเมลทำให้มีการเปิดมากขึ้น 30% และอัตราการคลิกเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับอีเมลที่ไม่ได้แบ่งกลุ่ม

สร้างคำกระตุ้นการตัดสินใจ (Calls to Action หรือ CTA) ที่น่าสนใจ จะดึงสมาชิกของคุณไปสู่การดำเนินการที่คุณต้องการให้พวกเขาทำ ซึ่งอาจเป็นการไปที่หน้า Landing Page, ดาวน์โหลดแหล่งข้อมูล หรือซื้อผลิตภัณฑ์ของคุณ ตรวจสอบให้แน่ใจว่า CTA ของคุณชัดเจน, กระชับ, โดดเด่นสะดุดตา และกระตุ้นให้เกิดการคลิก

ออกแบบแบบฟอร์มการสมัครที่น่าสนใจ สร้างแบบฟอร์มการสมัครของคุณให้สั้นและกรอกง่าย ขอข้อมูลเท่าที่จำเป็น หลีกเลี่ยงไม่ให้สมาชิกของคุณรู้สึกอึดอัดและเสียเวลา คุณต้องทำให้แบบฟอร์มการเลือกรับข้อมูล (opt-in) ของคุณให้ดูน่าดึงดูดและวางไว้ในตำแหน่งที่เรียกความสนใจมากที่สุดบนเว็บไซต์หรือหน้า Landing Page ของคุณ

วิธีการดึงดูด Lead การให้ข้อเสนอเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ เช่น อีบุ๊ค, การสัมมนาผ่านเว็บ หรือเอกสารสรุปข้อมูลเพื่อแลกกับที่อยู่อีเมล จะสามารถจูงใจให้มีการสมัครสมาชิกและสร้างมูลค่าในทันที

ดูแลลิสต์รายชื่อเป็นประจำ เพื่อรักษาการสื่อสารกับผู้รับหรือสมาชิกของคุณ พัฒนาตารางการส่งอีเมลทางการตลาดเพื่อให้แน่ใจว่าผู้รับจะมีส่วนร่วมอย่างสม่ำเสมอ คุณควรติดตามอัตราการเปิด, อัตราการคลิก และตัวชี้วัดอื่น ๆ เพื่อวัดความสนใจของสมาชิกของคุณ และต้องไม่รบกวนสมาชิกของคุณด้วยการส่งอีเมลที่มากเกินไป

ปรับปรุงลิสต์รายชื่ออีเมลเป็นประจำ การทำให้ลิสต์ของคุณสะอาดหมายถึงการลบสมาชิกที่ไม่ได้ใช้งานและไม่ได้มีส่วนร่วมกับอีเมลของคุณในช่วงระยะเวลาหนึ่ง สิ่งนี้จะช่วยปรับปรุงสุขคุณภาพของลิสต์และปกป้องชื่อเสียงของผู้ส่ง คุณยังสามารถเสนอโอกาสให้สมาชิกที่ไม่ได้ใช้งานกลับมามีส่วนร่วมอีกครั้ง เพื่อรักษาลิสต์รายชื่อให้สะอาดและเพิ่มมีส่วนร่วมจากผู้รับ

 

 

 

เคล็ดลับเพิ่มเติม: สร้างการมีส่วนร่วมกับสมาชิก

การใช้ซอฟต์แวร์การตลาดทางอีเมล

หากคุณต้องการทำการตลาดทางอีเมลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณควรซื้อซอฟต์แวร์ออนไลน์สำหรับการตลาดทางอีเมล ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้มีคุฟีเจอร์มากมาย เช่น การแบ่งกลุ่มรายชื่ออีเมล, ระบบอัตโนมัติ, และการวิเคราะห์ ซึ่งสามารถช่วยให้คุณส่งเนื้อหาที่เกี่ยวข้องและเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้ของคุณได้

หากคุณใช้ซอฟต์แวร์สำหรับการตลาดทางอีเมล คุณสามารถสร้างแคมเปญที่น่าตื่นเต้นและมีคุณค่ามากขึ้น ส่งผลให้มีการเปิด, คลิก และยอดขายมากขึ้น ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว สิ่งนี้จะทำให้ลูกค้ามีความสุขมากขึ้น, ทำให้พวกเขากลับมาอีก และเพิ่มยอดขายได้

ลองนึกภาพการรับอีเมลที่เต็มไปด้วยข้อมูลที่เกี่ยวข้องและข้อตกลงที่คุณใส่ใจอย่างแท้จริง แทนที่จะได้รับอีเมลโฆษณาทั่วไป ซอฟต์แวร์การตลาดทางอีเมลที่มีประสิทธิภาพยังให้ตัวชี้วัดที่มีประโยชน์เกี่ยวกับอัตราการเปิดและอัตราการคลิก ช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งกลยุทธ์ของคุณและให้สมาชิกของคุณมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องในการสื่อสารทางอีเมลของคุณ

สร้างเทมเพลตอีเมลที่ตอบสนองต่อทุกอุปกรณ์

การสร้างเทมเพลตที่สามารถตอบสนองต่ออุปกรณ์ (Responsive Email Template) ทำให้ผู้รับให้ความสำคัญกับอีเมลของคุณ การออกแบบอีเมลนี้จะปรับรูปแบบและปรับเค้าโครงเพื่อให้แสดงผลได้เหมาะสมที่สุดบนอุปกรณ์และขนาดหน้าจอต่าง ๆ เช่น เดสก์ท็อป, แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ความสำคัญของการปรับแต่งเทมเพลตนี้คือทำให้ผู้รับสามารถอ่านอีเมลได้ง่ายและดึงดูดสายตาบนอุปกรณ์และขนาดหน้าจอต่าง ๆ

อีเมลแบบโต้ตอบช่วยได้หากคุณต้องการให้ผู้รับให้ความสำคัญกับอีเมลของคุณอย่างจริงจัง การออกแบบอีเมลนี้จะปรับและปรับเค้าโครงและการจัดรูปแบบเพื่อแสดงอย่างเหมาะสมที่สุดบนอุปกรณ์และขนาดหน้าจอต่างๆ เช่น เดสก์ท็อป แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ความสำคัญของเทมเพลตอีเมลที่ตอบสนองในการมีส่วนร่วมอยู่ที่ความสามารถเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถอ่านอีเมลได้ง่ายและดึงดูดสายตาบนอุปกรณ์และขนาดหน้าจอต่าง ๆ

ด้วยการมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นให้ผู้รับ เทมเพลตอีเมลที่ตอบสนองต่ออุปกรณ์จะปรับปรุงประสบการณ์ของผู้รับ, เพิ่มความสามารถในการอ่าน และลดโอกาสที่ผู้รับจะละทิ้งอีเมลจากปัญหาเกี่ยวกับรูปแบบของการแสดงผล ซึ่งจะทำให้อัตราการมีส่วนร่วมสูงขึ้น รวมถึงอัตราการเปิด, อัตราการคลิก และอัตราความสำเร็จที่สูงขึ้นด้วย เนื่องจากผู้รับมีแนวโน้มที่จะโต้ตอบกับอีเมลที่สามารถเข้าถึงได้และดึงดูดสายตาบนอุปกรณ์ที่เลือกใช้

นี่คือเหตุผลว่าทำไมนักการตลาด 56% รายงานว่ามีการใช้ประโยชน์จากอีเมลที่แสดงผลเหมาะกับมือถือในกลยุทธ์การตลาดทางอีเมล

ใช้ประโยชน์จาก AI

AI มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้ผู้รับมีส่วนร่วมกับอีเมล ด้วยการปรับเปลี่ยนประสบการณ์ของสมาชิกให้เป็นแบบส่วนตัวและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแคมเปญ, ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลสมาชิกเพื่อสร้างเนื้อหา, คิดหัวเรื่องอีเมลที่มีประสิทธิภาพ และปรับเวลาการส่งให้เหมาะสม ส่งผลให้อีเมลมีความเกี่ยวข้องกับผู้รับและมีร่วมมากขึ้นได้

 

 

 

บทสรุป

การสร้างลิสต์รายชื่อที่ดีต้องใช้กลยุทธ์ เช่น การเพิ่มโอกาสให้มีผู้สมัครรับอีเมลโดยใช้ความหลากหลายในจุดรับสมัคร รวมถึงเว็บไซต์, แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าหรือเป้าหมายที่มีคุณภาพ ทั้งนี้การมีส่วนร่วมกับสมาชิกด้วยอีเมลต้อนรับ, การใช้เนื้อหาที่มีประโยชน์และเกี่ยวข้องกับผู้รับ, การแบ่งกลุ่มรายชื่ออีเมลสำหรับการส่งข้อความส่วนบุคคล ยังมีความสำคัญต่อการทำให้ผู้รับมีส่วนร่วมและการจัดการเนื้อหาให้กับสมาชิกอย่างมีประสิทธิภาพ

โพสต์โดย
โพสต์โดย
SENIOR SUPPORT SPECIALIST
มุกเป็นผู้ให้การสนับสนุนทางด้านเทคนิค และให้การช่วยเหลือกับลูกค้า มีความสามารถในการแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ มุกยังมีหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนทีมงานฝ่ายสนับสนุนลูกค้าด้วย เวลาว่างมุกชื่นชอบการท่องเที่ยว และเป็นคนที่มีความสนใจทางด้านแฟชั่น

ขยายธุรกิจของคุณด้วย
อีเมลมาร์เก็ตติ้ง

เริ่มต้นได้ฟรี