การใช้อีเมลมาร์เก็ตติ้งและ SMS เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงลูกค้าและส่งเสริมธุรกิจของคุณ

อีเมลมาร์เก็ตติ้งนั้นมีจุดเด่นคือสามารถส่งไปยังผู้รับที่ตรงกลุ่มเป้าหมายและส่งได้เป็นจำนวนมาก ในขณะที่ SMS มาร์เก็ตติ้งนั้นเหมาะสำหรับการส่งข้อความที่เร่งด่วนและทันท่วงทีพร้อมอัตราการเปิดและการตอบสนองที่สูง

มาดูรายละเอียดเกี่ยวกับประโยชน์ของอีเมลมาร์เก็ตติ้งและ SMS มาร์เก็ตติ้ง

ประโยชน์ของอีเมลมาร์เก็ตติ้ง:

เพิ่มอัตราความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้: อีเมลมาร์เก็ตติ้งมักให้อัตราความสำเร็จตามเป้าหมาย (conversion rate) สูงกว่าการตลาดทางดิจิทัลรูปแบบอื่น ๆ เช่น โซเชียลมีเดียหรือโฆษณาบนเสิร์ชเอนจิ้น

สื่อสารตรงกลุ่มเป้าหมาย: ด้วยการใช้อีเมลมาร์เก็ตติ้ง คุณสามารถจัดกลุ่มลิสต์รายชื่อผู้รับ และส่งอีเมลไปยังสมาชิกที่คุณกำหนดเป้าหมายเอาไว้ ตามความสนใจหรือพฤติกรรมของพวกเขา

ประหยัดค่าใช้จ่าย: อีเมลมาร์เก็ตติ้งมีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับการตลาดในรูปแบบอื่น ๆ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับธุรกิจที่มีงบประมาณจำกัดในการรักษาวงจรชีวิตของลูกค้า (life cycle of customers)

ติดตามผลลัพธ์ได้ง่าย: แพลตฟอร์มอีเมลมาร์กเก็ตติ้งส่วนใหญ่จะมีสติถิต่าง ๆ ให้คุณสามารถใช้ในการวิเคราะห์ จากอัตราการเปิด, อัตราการคลิก และเมตริกสำคัญอื่น ๆ ที่มีคุณค่าต่อธุรกิจของคุณ

ประโยชน์ของ SMS มาร์เก็ตติ้ง:

จัดส่งถึงผู้รับทันที: ข้อความ SMS จะถูกส่งถึงโทรศัพท์มือถือของผู้รับทันที ทำให้เหมาะสำหรับการส่งเสริมการขายหรือการแจ้งเตือนที่ต้องคำนึงถึงเวลา

อัตราการตอบสนองสูง: ข้อความ SMS มีอัตราการตอบสนองที่สูงกว่าการตลาดรูปแบบอื่นๆ โดยการศึกษาบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าผู้รับมากถึง 45% ตอบสนองกับข้อความ SMS ที่ได้รับ

การสื่อสารส่วนบุคคล: ข้อความ SMS มักสั้นและตรงประเด็น ทำให้เหมาะสำหรับการสื่อสารส่วนบุคคล และเพิ่มการมีส่วนร่วมได้

ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับในการเพิ่มการมีส่วนร่วมจากลูกค้าของคุณ:

ปรับแต่งข้อความของคุณ: ใช้ชื่อผู้รับและข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อทำให้ผู้รับอีเมลและข้อความ SMS ของคุณรู้สึกว่าเป็นการติดต่อแบบส่วนตัวและตรงเป้าหมายมากขึ้น

แบ่งกลุ่มผู้รับ: แบ่งรายชื่อสมาชิกสำหรับการส่งอีเมลและ SMS ออกเป็นกลุ่มตามความสนใจ, พฤติกรรม หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง สิ่งนี้ทำให้คุณสามารถส่งข้อความที่ตรงเป้าหมายมากขึ้นโโยส่งเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับแต่ละกลุ่มได้อย่างเหมาะสม

ใช้ภาษาที่ชัดเจน: ทำให้ข้อความของคุณสั้นและตรงประเด็น ใช้ภาษาง่าย ๆ ให้ผู้รับอ่านแล้วเข้าใจ ไม่ต้องตีความ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคำกระตุ้นการตัดสินใจ (Call to action) ของคุณมีความชัดเจน

ให้คุณค่า: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเนื้อหาอีเมลหรือข้อความที่คุณส่งให้คุณค่ากับสมาชิกของคุณ โดยคุณค่าที่พูดถึงอาจอยู่ในรูปแบบของส่วนลด, เนื้อหาพิเศษ, สิ่งที่ลูกค้าสนใจ หรือคำแนะนำที่เป็นประโยชน์

ทดสอบและเพิ่มประสิทธิภาพ: สำหรับการส่งอีเมล คุณสามารถใช้การทดสอบ A/B เพื่อดูว่าหัวเรื่องอีเมลหรือเนื้อหาประเภทใดมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการดึงดูดผู้ชมของคุณ และใช้ข้อมูลนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญในอนาคตของคุณ

เวลาเป็นสิ่งที่สำคัญ: กลยุทธ์ในการส่งอีเมลและข้อความ SMS ควรต้องพิจารณาเรื่องเวลาของผู้รับ โดยหลีกเลี่ยงการส่งข้อความในช่วงเวลาที่พวกเขาไม่น่าจะเช็คอีเมลหรือโทรศัพท์

ทำให้ง่ายสำหรับการยกเลิกรับข่าวสาร: แจ้งให้วิธีการที่ชัดเจนและง่ายสำหรับการยกเลิกรับข่าวสารจากอีเมลของคุณ การดำเนินการเรื่องนี้นอกจากจะช่วยให้คุณปฏิบัติตามกฎระเบียบได้แล้ว ยังช่วยให้คุณมั่นใจว่าผู้รับต้องการมีส่วนร่วมและสนใจในเนื้อหาของคุณ

เมื่อคุณทราบข้อดีรวมถึงเคล็ดลับในการใช้อีเมลและ SMS คุณสามารถเลือกใช้ข้อดีและเทคนิคในการสื่อสารด้วยอีเมลและ SMS มาใช้ร่วมกันได้ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการสื่อสารที่เหมาะกับผู้รับ, เนื้อหา, สถานการณ์ และช่วงเวลา อีกทั้งยังกระตุ้นให้ลูกค้ามีส่วนร่วมและเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อได้อีกด้วย

การใช้งานระบบอัตโนมัติ (Automation) ในการส่งอีเมลและ SMS

เพลตฟอร์มอีเมลมาร์เก็ตติ้งที่มีระบบอัตโนมัติ จะเพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก เพียงคุณสร้างโฟลว์ไว้ล่วงหน้า ระบบจะดำเนินการณ์ตามลำดับที่คุณตั้งค่าไว้ให้อัตโนมัติไปจนจบ ลดระยะเวลาทำงาน ไม่ต้องทำงานหลายครั้ง สามารถเพิ่มความแม่นยำและการทำซ้ำอย่างมีประสิทธิภาพ

ด้วยระบบอัตโนมัติของ Taximail คุณสามารถสร้างโฟลว์เพื่อส่งทั้งอีเมลและ SMS ได้อย่างต่อเนื่อง เช่น ตั้งค่าให้ระบบส่งอีเมลฉบับแรกและให้ส่ง SMS ไปแจ้งเตือนสำหรับผู้ที่ไม่ได้เปิดอีเมลได้แบบอัตโนมัติ

ตัวอย่างสถานการณ์ ในการใช้งานระบบอัตโนมัติ

เมื่อคุณเปิดเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซเพื่อขายเสื้อผ้า และคุณต้องการส่งอีเมลต้อนรับแบบอัตโนมัติไปยังลูกค้าใหม่ที่สมัครเข้ามาที่ลิสต์รายชื่อของคุณผ่านทางเว็บไซต์และเสนอส่วนลดในการซื้อครั้งแรก หลังจากนั้นอีกสองสามต่อมาทำการส่ง SMS แจ้งเตือนเพื่อกระตุ้นให้พวกเขาใช้ส่วนลดนั้น

อีเมล #1: ยินดีต้อนรับและข้อเสนอส่วนลด

หัวเรื่อง: ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของเรา! รับส่วนลด 15% สำหรับการซื้อครั้งแรกของคุณ

สวัสดี [ชื่อจริง],

ขอขอบคุณที่สมัครรับข่าวสารทางอีเมล และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่คุณมาเป็นลูกค้าใหม่ของเรา! เพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ เราขอมอบส่วนลดพิเศษ 15% สำหรับการซื้อครั้งแรกของคุณ

หากต้องการรับส่วนลด เพียงใช้รหัส WELCOME15 เมื่อชำระเงิน ข้อเสนอนี้ใช้ได้ในอีก 7 วันข้างหน้าเท่านั้น 

รีบเข้ามาเลือกซื้อสิ่งที่คุณต้องการได้เลย

หากคุณมีคำถามใด ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของเรา ติดต่อเราได้ทันที 

ขอแสดงความนับถืออย่างสูง,

[ชื่อบริษัทของคุณ]

SMS #1: การแจ้งเตือนส่วนลด

SMS #1: Discount Reminder

สวัสดี [ชื่อจริง],

แจ้งเตือน! ส่วนลด 15% สำหรับการซื้อครั้งแรกของคุณจะหมดอายุใน 3 วัน! ใช้รหัส WELCOME15 เมื่อชำระเงินเพื่อรับสิทธิประโยชน์ ขอให้คุณมีความสุขในการช้อปปิ้ง!

อีเมล #2: สินค้ามาใหม่

หัวเรื่อง: สินค้าใหม่ประจำสัปดาห์ โปรโมชั่นจัดเต็ม!

สวัสดี [ชื่อจริง],

หวังว่าคุณจะสนุกกับการซื้อของครั้งแรกกับเรา! ขอแจ้งให้คุณทราบว่าสัปดาห์นี้เรามีสินค้าใหม่เข้ามามากมาย และมีโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับสุด ให้สมาชิกเลือกซื้อได้ที่เว็บไซต์ของเราแล้วตอนนี้

ลองดูว่ามีสินค้าอะไรที่โดนใจคุณ และอย่าลืมในฐานะลูกค้าคนสำคัญ คุณสามารถใช้โค้ด NEWARRIVALS10 เพื่อรับส่วนลด 10% สำหรับการซื้อครั้งต่อไป

ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของคุณ และเราหวังว่าจะได้พบคุณอีกในเร็วๆ นี้!

ขอแสดงความนับถืออย่างสูง,

[ชื่อบริษัทของคุณ]

 SMS #2: การแจ้งเตือนสินค้ามาใหม่

สวัสดี [FirstName] 

เรามีสินค้ามาใหม่! เลือกซื้อและอย่าลืมใช้รหัสพิเศษ NEWARRIVALS10 เพื่อรับส่วนลด 10% สำหรับการซื้อของคุณ มีความสุขในการช้อปปิ้ง! 

คุณสามารถพิจารณาและปรับเปลี่ยนเนื้อหา, ข้อความและเวลาที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณได้ ทดสอบและเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญของคุณตามการมีส่วนร่วมและการตอบสนองของลูกค้า คุณควรตรวจสอบเสมอว่าทั้งอีเมลและ SMS ที่คุณส่งมีคำกระตุ้นการตัดสินใจ (Call to action) เพื่อบอกผู้รับของคุณว่าพวกเขาต้องทำอย่างไรเมื่อได้รับอีเมลและแคมเปญ SMS จากคุณ