เงื่อนไขการใช้ และ นโยบายส่วนบุคคล •
อีเมลมาร์เก็ตติ้งหรือการตลาดทางอีเมลเป็นเครื่องมือที่ราคาไม่แพงและง่ายต่อการใช้งานซึ่งสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซได้รับประโยชน์มากขึ้นจากสมาชิกที่สมัครเข้ามาในทุกสัปดาห์
มีการทดสอบการตลาดทางอีเมลจนทำให้สามารถกล่าวได้ว่าเป็นเครื่องมือที่ดีกว่าการใช้ช่องทางอื่น ๆ เช่น โซเชียลมีเดีย, การตลาดทาง SEO, และการเพยแพร่เนื้อหาผ่านช่องทางต่าง ๆ |
เหตุผลคือคุณสามารถปรับหรือกำหนดการมีส่วนร่วมของผู้อ่านและยังสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าของคุณได้อีกด้วย
นี่คือวิธีการนำอีเมลมาร์เก็ตติ้งมาใช้สำหรับลิสต์รายชื่อสมาชิกของคุณ:
- คุณสามารถส่งอีเมลส่วนลดพิเศษสำหรับวันเกิด, วันหยุดและโอกาสอื่น ๆ
- ส่งข้อมูลการอัปเดตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และข่าวสารของบริษัท
- ส่งข้อมูลบล็อกภายในเว็บไซต์ของคุณเพื่อทำการโปรโมท
- อีเมลแจ้งเตือนสำหรับรถเข็น
- อีเมลแจกรางวัลให้กับลูกค้าประจำหรือให้สิทธิพิเศษเฉพาะบุคคล
- อีเมลรีวิวผลิตภัณฑ์
แต่ก่อนอื่นคุณต้องหาแพลตฟอร์มการตลาดทางอีเมลที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ
การสร้างลิสต์รายชื่ออีเมล
คุณจะสร้างลิสต์รายชื่ออีเมลได้อย่างไร? กลยุทธ์ในการเก็บรวบรวมผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าของคุณคืออะไร?
มีวิธีการที่หลากหลายในการสร้างลิสต์รายชื่อ หนึ่งในนั้นคือการใช้แบบฟอร์มเลือกสมัครสมาชิก (opt-in) ที่ชัดเจน เช่น การใช้กล่องรับสมัครข่าวสาร (sign-up boxes) เพื่อเก็บรวบรวมสมาชิก
วิธีที่ดีกว่าในการดึงดูดลูกค้าให้มอบชื่อและอีเมลกับคุณ คือการเสนอสิทธิ์ทดลองใช้ฟรีหรือให้ส่วนลดพิเศษเมื่อลูกค้าซื้อและใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการจากคุณ
( นี่เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้นคุณอาจจะออกแบบวิธีการอื่น ๆ ได้ด้วยตัวเอง )
เครดิตภาพ : https://www.business2community.com
วิธีการอื่นในการสร้างลิสต์รายชื่ออีเมล:
- การใช้แบบฟอร์มลงทะเบียนในบล็อก, ในอีเมลและในโซเชียลมีเดียของคุณ
- ให้แรงจูงใจกับสมาชิกที่มีอยู่เดิมเพื่อให้ไปแนะนำเพื่อนมาสมัครเพิ่มเติม
- ใช้ QR โค้ดในสื่อสิ่งพิมพ์หรือในเว็บไซต์ เพื่อลิงก์ไปยังแบบฟอร์มเลือกสมัครสมาชิก
- ทำผลิตภัณฑ์แจกฟรีเพื่อแลกกับรายละเอียดจากการลงทะเบียน
การสร้างอีเมลที่มีประสิทธิภาพ
อีเมลเป็นสื่อที่ใช้งบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดและเป็นการสื่อสารเพื่อธุรกิจที่ได้รับความนิยมในตลาด โดยมีอีเมลมากกว่าหนึ่งพันล้านฉบับที่ถูกส่งไปถึงผู้รับในทุก ๆ วัน
หัวเรื่องอีเมล (Subject Line) - เป็นความประทับใจแรกที่ลูกค้าของคุณจะเห็นและตัดสินใจว่าควรอ่านต่อไปหรือไม่
ควรพิจารณาสิ่งต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงคำทางเทคนิคในการขายบางคำ เช่น คำว่า "ฟรี” หรือการพิมพ์ด้วยตัวอักษรตัวใหญ่ทั้งหมด
- ปรับแต่งอีเมลแต่ละฉบับให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าของคุณ
- ใช้หัวเรื่องอีเมลแบบสั้น ๆ โดยมีความยาวไม่เกิน 50 ตัวอักษร
- มีความตรงไปตรงมาและจริงใจที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เหตุผลในการส่งอีเมลของคุณ - คุณควรส่งอีเมลที่เนื้อหามีความชัดเจนเป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย โดยมีความครอบคลุมและเกี่ยวข้องกับลูกค้าของคุณไม่ว่าจะเป็นส่วนลดหรือข้อเสนอพิเศษ ซึ่งการออกแบบอีเมลนั้นมีความสำคัญต่อการดึงดูดสายตาจากลูกค้าของคุณ
การเรียกร้องให้ดำเนินการ (Call-to-Action)
นี่คือส่วนที่สำคัญอย่างมากในอีเมลเนื่องจากเป็นความต้องการที่จะให้ลูกค้าดำเนินการบางอย่างหลังจากที่อ่านอีเมลของคุณ ซึ่งการเรียกร้องให้ดำเนินการนั้นหากอยู่ในช่วงต้นของอีเมลจะมีประสิทธิภาพมากกว่าอยู่ในส่วนท้ายของอีเมล
เคล็ดลับในการเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ
- ส่งอีเมลในช่วงเวลาทำการเพื่อกระตุ้นให้มีการเปิดอ่านทันที
- ส่งข้อมูลที่มีประโยชน์หรือส่งข้อความง่าย ๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าของคุณ
- อย่าทิ้งระยะห่างนานเกินไปในการส่งเนื้อหาใหม่ไปหาลูกค้า
- ส่งอีเมลธุรกรรมของคุณในช่วงเวลาต่าง ๆ ตั้งแต่วันที่ลูกค้าลงทะเบียน, หลังจากนั้น 1 สัปดาห์, และ 3 สัปดาห์เป็นต้น
- ส่งชุดอีเมลสำหรับผู้ที่ยกเลิกการสั่งของหรือละทิ้งรถเข็น
- ออกแบบอีเมลให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์แบรนด์ของคุณ
- ทำแบบจำลองการเปิดอีเมลบนมือถือเมื่อคุณออกแบบอีเมล
ติดตามการวิเคราะห์อีเมล
สถิติของอีเมลจะให้ข้อมูลเชิงลึกทั้งหมดในสิ่งที่ผิดปกติหรือสิ่งที่คุณสามารถเปลี่ยนและทำซ้ำเพื่อเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ต่อไปนี้คือ 6 แนวทางในการติดตาม
เปอร์เซ็นต์อัตราการเปิด - เป็นอัตราการเปิดอีเมลจากสมาชิกของคุณ หากอัตราการเปิดน้อยคุณสามารถทดลองเปลี่ยนหัวเรื่องอีเมลของคุณได้
เปอร์เซ็นต์การเติบโตของลิสต์รายชื่อ - คืออัตราการเติบโตของกลุ่มสมาชิกของคุณ และสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซนั้นคุณสามารถกำหนดเป้าหมายให้มีสมากชิกเพิ่มขึ้นในทุก ๆ วัน
เปอร์เซ็นต์การตีกลับ - คือรายชื่ออีเมลที่ถูกส่งออกแต่ไปไม่ถึงกล่องจดหมายด้วยสาเหตุ เช่น ถูกรายงานสแปม, มีรายชื่อสมาชิกที่ไม่สามารถใช้งานหรือข้อผิดพลาดทางเทคนิค
เปอร์เซ็นต์การคลิก - คือสมาชิกที่คลิกปุ่มเรียกร้องให้ดำเนินการที่นำไปสู่เว็บไซต์ของคุณ
เปอร์เซ็นต์ความสำเร็จตามเป้าหมายแคมเปญ - ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงผู้ที่คลิกลิงก์เพียงอย่างเดียวแต่หมายถึงสมาชิกที่ดำเนินการบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับลิงก์จนเสร็จกระบวนการ
เปอร์เซ็นต์การออกจากลิสต์รายชื่อ - อัตรานี้คือหากมีการยกเลิกรับข่าวสารจากลิสต์รายชื่อโดยเป็นผลจากการส่งอีเมลของคุณ นั่นจะสามารถบอกคุณได้ว่าคุณส่งอีเมลจำนวนมากเกินไปหรืออาจส่งไปหากลุ่มคนที่ไม่ได้สนใจข่าวสารจากคุณ
เมื่อคุณใช้การตลาดทางอีเมลในธุรกิจอีคอมเมิร์ซจะสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเมื่อคุณใช้อย่างถูกต้อง คุณจะสามารถเพิ่มยอดขาย, ผู้เข้าชมเว็บไซต์และการรับรู้ถึงแบรนด์ โดยมีหลายวิธีที่คุณสามารถใช้การตลาดทางอีเมลในธุรกิจของคุณได้ อีกทั้งคุณยังสามารถใช้อีเมลธุรกรรมและการส่งอีเมลโดยตรงเพื่อเข้าถึงสมาชิกของคุณในระดับบุคคลได้อีกด้วย
คุณกำลังรออะไรอยู่? มาเริ่มต้นใช้การตลาดทางอีเมลสำหรับธุรกิจของคุณตั้งแต่วันนี้