เงื่อนไขการใช้ และ นโยบายส่วนบุคคล •
มีใครบ้างที่ไม่ชอบอิโมจิ?
ดูเหมือนว่ามีจำนวนของธุรกิจที่นำอิโมจิมาใช้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดทางอีเมลกล่าวว่า คุณต้องเข้าใจลูกค้าและกลุ่มผู้เข้าชมเพื่อให้แน่ใจว่าผู้รับอีเมลทุกคนจะเข้าใจและรู้ความหมายของอิโมจิที่คุณใช้
อย่าลืมที่จะทำการทดสอบหัวเรื่องอีเมลบนแพลตฟอร์มทั้งหมดก่อนเพื่อทำให้แน่ใจว่าจะแสดงเนื้อหาที่ต้องการอย่างถูกต้อง
การเปิดเผยข้อมูล...
จากการสำรวจล่าสุดพบว่ามีอีเมลประมาณ 20% ที่มีความน่าสนใจ และมีประมาณ 23% ของอีเมลส่วนบุคคลที่ผู้รับสนใจที่จะเปิดอ่าน โดยในบทความนี้จะพูดถึงความสำคัญที่นักการตลาดจะสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้อ่าน
อิโมจิสามารถทำให้บรรลุวัตถุประสงค์นี้หรือไม่?
ผู้มีอิทธิพลทางออนไลน์หลายคนให้ความเห็นอย่างไม่มั่นใจว่าอิโมจิมีความเกี่ยวข้องกับการตลาดทางอีเมล แต่อย่างไรก็ตามในเทรนด์ของการใช้อิโมจิ นักการตลาดใช้การฝังภาพยกนิ้วขึ้น (thumbs-up) ตามด้วยการจัดประเภทของหน้ายิ้ม (smiley faces) โดยที่อิโมจิรูปยกนิ้วขึ้นได้รับความนิยมในอีเมลส่วนบุคคล แต่รูปหัวใจได้รับความนิยมในอีเมลทั่วไป
นอกจากนี้การใช้ อิโมจิต้องคำนึงถึงเรื่องตำแหน่งของผู้รับอีเมล ตัวอย่าง เช่น มีคนน้อยกว่า 20% ที่จะส่งอิโมจิไปหาผู้บริหารระดับสูง แต่อย่างไรก็ตามยังคนอีกส่วนคิดว่าความเหมาะสมขึ้นอยู่กับเนื้อหาและสถานการณ์ เป็นต้น
อิโมจิอาจใช้ไม่ได้กับทุกกรณี แต่มีการศึกษาที่พิสูจน์ให้เห็นว่าเมื่อมีการใส่อิโมจิในหัวเรื่องอีเมลจะสามารถพัฒนากลยุทธ์ในการดึงดูดผู้รับอีเมลให้มีส่วนร่วมได้ โดยผลลัพธ์จากอีเมลมาร์เก็ตติ้งคือมีอัตรการเปิดเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับแคมเปญอีเมลที่ไม่ได้ใช้อิโมจิ นักวิเคราะห์ใช้ตัวอย่างอีเมลจำนวน 1.3 พันล้านฉบับระหว่างปี 2015 และ 2016 แสดงให้เห็นว่าอิโมจิเพิ่มอัตราการเปิดอย่างน้อย 40% เมื่อถูกใช้ในหัวเรื่องอีเมล
คุณสามารถนำอิโมจิมาใช้ในอีเมลได้อย่างไร?
หากคุณไม่แน่ใจว่าลูกค้าของคุณจะให้ความสนใจกับหัวเรื่องอีเมลของคุณหรือไม่ ลองทำการทดลองส่งออกประมาณ 10% ของลูกค้าทั้งหมด
ถ้าคุณได้รับผลตอบรับที่ดีจากการทดลองครั้งนี้ คุณสามารถส่งถึงลูกค้าที่เหลือทั้งหมดด้วยรูปแบบหัวเรื่องเดียวกัน ซึ่งอาจจะช่วยให้เกิดการสั่งซื้อสินค้าหรือบริการในจำนวนที่มากขึ้นได้
ตรวจสอบโดยส่งอีเมลทดสอบหรือโดยการวิเคราะห์ผลลัพธ์เพื่อให้แน่ใจว่าอิโมจิจะสามารถแสดงบนไคลเอ็นต์อีเมลและกลุ่มเป้าหมาย อิโมจิเป็นวิธีที่ดีในการใส่บุคลิกภาพในความสัมพันธ์ทางการค้ากับสมาชิกของคุณ และช่วยแก้ไขปัญหาความยาวของหัวเรื่องอีเมลได้
ประโยชน์ของอิโมจิ
1 อิโมจิ สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้รับอีเมลได้
อิโมจิทำให้ส่วนหัวเรื่องโดดเด่นในกล่องจดหมายและสามารถเพิ่มโอกาสในการเปิดอ่านอีเมล โดยการศึกษาจากสถิติมีแบรนด์ที่ใช้อิโมจิถึง 56% ที่สามารถเพิ่มอัตราการเปิดได้
2 อิโมจิช่วยให้มีการรับรู้ถึงแบรนด์
เพียงแค่ลูกค้าสังเกตในกล่องจดหมายโดยยังต้องเปิดอ่าน คุณก็สามารถเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ได้โดยการใส่ชื่อแบรนด์ในส่วนหัวเรื่องอีเมล พร้อมทั้งใช้อิโมจิเพื่อบอกถึงความเป็นแบรนด์ของคุณได้อีกด้วย
3 อิโมจิช่วยประหยัดพื้นที่ได้
ในยุคดิจิทัลนี้ลูกค้าส่วนใหญ่จะเปิดอีเมลด้วยโทรศัพท์มือถือ
ส่วนหัวเรื่องอีเมลจึงควรมีความยาวประมาณ 41-50 ตัวอักษร และเป็นการท้าทายในการเขียนหัวเรื่องอีเมลที่สามารถดึงดูดให้ลูกค้าเปิดอ่านด้วย emojis ที่สื่อถึงสิ่งที่คุณต้องการแจ้งให้ทราบ
4 Taximail ช่วยให้คุณเพิ่มอิโมจิในหัวเรื่องอีเมลได้อย่างง่ายดาย
คุณสามารถสร้างแคมเปญโดยใช้อิโมจิที่มีอยู่ในระบบใส่ลงไปในส่วนหัวเรื่องอีเมลได้ง่าย ๆ ซึ่งอิโมจิจะสามารถถบอกถึงสิ่งที่ต้องการสื่อสารให้กับสมาชิกได้รับทราบ
5 ทดสอบอิโมจิอยู่เสมอ
อิโมจิมีลักษณะที่แตกต่างกันไปสำหรับแต่ละอีเมลไคลเอ็นต์ ซึ่งจะดีกว่าถ้าหากคุณได้ทดสอบและดูลักษณะที่ปรากฏในแต่ละอีเมลไคลเอ็นต์เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด
6 อย่าใช้อิโมจิแทนคำต่าง ๆ
เนื่องจาก Outlook มีความแตกต่างจากอีเมลไคลเอ็นต์อื่น ๆ คือไม่สามารถแสดงผลอิโมจิได้ จึงไม่ควรแทนที่คำต่าง ๆ ด้วยอิโมจิ โดยควรใช้เพื่อดึงดูดความสนใจเท่านั้น
7 ใช้อิโมจิช่วงต้นของหัวเรื่องอีเมล
ลูกค้าจะเห็นอีเมลของคุณแตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ ซึ่งอาจจะเป็นเดสก์ท็อปหรือโทรศัพท์มือถือ ดังนั้นการใส่อีโมจิไว้ช่วงต้นของหัวเรื่องอีเมล จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงไม่การแสดงผลจากการตัดคำในกล่องจดหมาย
สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนใช้อิโมจิ
1 อิโมจิเหมาะกับแบรนด์ของคุณหรือไม่?
อิโมจิไม่ได้เหมาะสมกับแบรนด์ทุก ๆ แบรนด์เนื่องจากมีปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุของลูกค้า, ทัศนคติ, การสื่อสารและการเข้าถึง
แน่นอนว่าการใช้อิโมจินั้นทำให้รู้สึกสนุก, น่ารัก, ขี้เล่นและอาจทำให้ดูเป็นเด็ก ซึ่งคุณควรใช้อิโมจิหากคุณมีแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ดังกล่าว
2 อย่าใช้อิโมจิมากเกินไป
การใส่อิโมจิในส่วนหัวเรื่องอีเมลจะเป็นประโยชน์ต่ออัตราการเปิดและสามารถเพิ่มการโต้ตอบจากลูกค้าในแคมเปญของคุณ
อย่างไรก็ตามอย่าใช้อิโมจิมากจนเกินไป คุณไม่ควรส่งอีเมลพร้อมอิโมจิตลอดเวลา และอิโมจิอาจจะล้าสมัยค่อนข้างเร็ว โดยคุณควรใช้เฉพาะตอนที่เหมาะสมและสามารถส่งผลกระทบต่อส่วนหัวเรื่องอีเมลของคุณ
3 ลูกค้าทั้งหมดจะสามารถเห็นอิโมจิได้เช่นเดียวกัน
อีเมลไคลเอ็นต์ทั้งหมดจะแสดงอีโมจิแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย แต่อิโมจิจะนั้นไม่ได้รับการสนับสนุนจาก Outlook และแสดงผลเป็นสี่เหลี่ยมว่างเปล่า
สรุป
คุณต้องพิจารณาข้อดีข้อเสียของการมีอิโมจิในแคมเปญอีเมล โดยใช้ไอคอนเล็ก ๆ เหล่านี้ที่มีความสร้างสรรค์และสามารถสื่อถึงอารมณ์ได้อย่างชาญฉลาด ซึ่งจะทำให้สามารถเพิ่มความน่าสนใจให้กับหัวเรื่องอีเมลมากขึ้น